Page 104 - ตราสารระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนที่ไทยเป็นภาคี : จากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ
P. 104
(ช) สิทธิส่วนตัวเช่นเดียวกันในฐานะสามีและภรรยา รวมถึงสิทธิในการเลือกใช้นามสกุล และ
การประกอบอาชีพ
(ซ) สิทธิเช่นเดียวกันส าหรับคู่สมรสทั้งสองในส่วนที่เกี่ยวกับเป็นเจ้าของการได้มา การจัดการ
การด าเนินการ การอุปโภค และการจ าหน่ายทรัพย์สินไม่ว่าจะไม่คิดมูลค่าหรือเพื่อตีราคาเป็นมูลค่าก็
ตาม
2. การรับหมั้นและการแต่งงานของเด็กจะไม่มีผลทางกฎหมาย และการปฏิบัติการที่จ าเป็นทั้งปวง
รวมทั้งการบัญญัติกฎหมายจะต้องกระท าขึ้นเพื่อระบุอายุขั้นต ่าของการแต่งงาน และให้บังคับให้มีการจดทะเบียน
สมรส ณ ที่ท าการจดทะเบียนของทางราชการ
ภาค 5
ข้อ 17
1. เพื่อความมุ่งประสงค์ในการพิจารณาความก้าวหน้าซึ่งกระท าขึ้นในการปฏิบัติตามอนุสัญญาฉบับ
ปัจจุบัน ให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรี (ต่อไปในที่นี้จะเรียกว่า
คณะกรรมการ) ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณธรรมและความสามารถสูงในสาขาที่ครอบคลุมโดยอนุสัญญานี้
จ านวนสิบแปดคนในเวลาที่อนุสัญญานี้เริ่มมีผลบังคับใช้ และประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญยี่สิบสามคน หลังจากการ
ให้สัตยาบันหรือภาคยานุวัติอนุสัญญานี้โดยรัฐภาคีรัฐที่สามสิบห้า ผู้เชี่ยวชาญจะได้รับเลือกตั้งโดยรัฐภาคีจาก
บรรดาคนชาติของตนและจะปฏิบัติงานตามความสามารถของบุคคล โดยพิจารณาถึงการกระจายตามเขต
ภูมิศาสตร์อย่างเป็นธรรม และการตั้งผู้แทนตามอารยธรรมที่แตกต่างกันในแต่ละรูปแบบตลอดจนระบบกฎหมาย
ที่ส าคัญอีกด้วย
2. สมาชิกของคณะกรรมการจะได้รับเลือกตั้งโดยการลงคะแนนลับจากบัญชีรายชื่อบุคคลซึ่งเสนอชื่อ
โดยรัฐภาคี รัฐภาคีแต่ละรัฐอาจเสนอชื่อบุคคลหนึ่งคนจากบรรดาคนชาติของตนเอง
3. การเลือกตั้งครั้งแรกจะกระท าขึ้นหกเดือนหลังจากวันที่อนุสัญญาฉบับปัจจุบันเริ่มมีผลบังคับใช้ อย่าง
น้อยที่สุดสามเดือนก่อนการเลือกตั้งแต่ละครั้งเลขาธิการสหประชาชาติจะส่งจดหมายถึงรัฐภาคี เชิญให้รัฐภาคีท า
การเสนอชื่อภายในเวลาสองเดือน เลขาธิการจะจัดท าบัญชีรายชื่อของบุคคลทั้งปวง ตามที่ได้รับการเสนอชื่อนั้น
เรียงตามล าดับอักษร โดยระบุถึงรัฐภาคีซึ่งได้เสนอชื่อบุคคลเหล่านั้นและจะเสนอบัญชีนั้นต่อรัฐภาคี
4. การเลือกตั้งสมาชิกคณะกรรมการจะกระท าขึ้นในการประชุมของรัฐภาคี ซึ่งเรียกประชุมโดย
เลขาธิการ ณ ส านักงานใหญ่สหประชาชาติ ในการประชุมนั้นซึ่งสองในสามของรัฐภาคีจะประกอบเป็นองค์
ประชุม บรรดาบุคคลที่ได้รับเลือกตั้งให้เป็นคณะกรรมการจะต้องเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อซึ่งได้รับคะแนนเสียง
มากที่สุด และได้รับคะแนนเสียงจากจ านวนสมาชิกที่มีมากกว่าฝ่ายตรงข้ามรวมทั้งหมดของผู้แทนของรัฐภาคีที่มา
ประชุมและลงคะแนนเสียง