Page 116 - เสียงจากประชาชน การต่อสู้เพื่อสิทธิในที่ดิน กรณีร้องเรียน 2545-2550. เล่ม 4 : "ที่ดินในเขตป่าและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและป่า"
P. 116
คำรองที่ เรื่องรองเรียน ความเห็นของ กสม. มาตรการแกไข / ขอเสนอแนะนโยบาย โดย กสม.
๒. ใหอุทยานแหงชาติแกงกรุงและสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษที่ ๔ รวมทั้งหนวยงานราชการที่
เกี่ยวของตองดำเนินการรับรองสิทธิในที่ดินกับราษฎร ๗๖๖ ราย ที่ไดรับการสำรวจการถือครองและใช
ประโยชนที่ดินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๔๑ และตองรงสำรวจการถือครองที่ดิน
ของราษฎรรายที่ตกสำรวจในพื้นที่บานทับทหารโดยเร็ว และใหราษฎรไดมีสวนรวมในกระบวนการ
สำรวจตรวจสอบดังกลาวดวย ทั้งนี้ ภายใน ๔๕ วัน นับตั้งแตไดรับรายงานฉบับนี้
ขอเสนอแนะ
๑. ใหกรมปาไม และกรมอุทยานแหงชาติสัตวปา และพันธุพืช เขาไปสนับสนุนใหราษฏรไดมีสวน
รวมกับรัฐในการดูแลรักษาปาอยางยั่งยืน
๒. ใหมีการปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวของกับการจัดการทรัพยากรปาไม ไดแกพระราชบัญญัติปา
ไม พ.ศ.๒๔๘๔ พระราชบัญญัติปาสงวนแหงชาติ พ.ศ.๒๕๐๗ พระราชบัญญัติอุทยานแหงชาติ พ.ศ.
๒๕๐๔ พระราชบัญญัติสงวนและคุมครองสัตวปา พ.ศ.๒๕๓๔ และพระราชบัญญัติสวนปา พ.ศ.๒๕๓๕
โดยคำนึงถึงสิทธิชุมชน และใหชุมชน ประชาชนมีสวนรวมในการจัดการทรัพยากรในเขตพื้นที่ปา เพื่อนำ
ไปสูความยั่งยืนสมดุล สอดคลองกับระบบนิเวศ ทั้งนี้ในการปรับแกกฎหมาย ควรมีการรับฟงความคิด
เห็นของประชาชน ใหประชาชนมีสวนรวมกระบวนการพิจารณาแกไขกฎหมาย
๓๒๘/๒๕๔๘, กรณีการประกาศเขต ๑) การอพยพชาวบานหวยหวายเปนการละเมิด มาตรการในการแกไข
๓๕๐/๒๕๔๘ รักษาพันธุสัตวปาภูผา ศักดิ์ศรีความเปนมนุษย ทำใหบุคคลขาดความมั่นคงใน ๑. คณะทำงานแกไขปญหาการอยูอาศัยและที่ดินทำกินของราษฎรในเขตอุทยานแหงชาติน้ำหนาว
แดง และอพยพชาวบาน การดำเนินชีวิต การอพยพบานหวยหวายเปนการดำเนิน ปาสงวนแหงชาติน้ำหนาว และเขตรักษาพันธุสัตวปาภูผาแดง ในพื้นที่อำเภอหลมสัก ควรเรงดำเนินการ
รายงานผลการ หวยหวาย การที่มีการละเมิดสิทธิชุมชน สิทธิในที่ทำกิน และ กำหนดขอบเขตพื้นที่การครอบครองที่ดินของชาวบานหวยระหงส บานหวยกลทาและบานหวยหวาย เพื่อ
ตรวจสอบที่ อ.หลมสัก จ.เพชรบูรณ ละเมิดสิทธิในที่อยูอาศัย ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๔๐ ใหประชาชนไดรับรูแนวเขตที่ชัดเจน และทำการพิสูจนสิทธิการครอบครองที่ดินของชาวบานตอไป ภายใน
๕๕/๒๕๔๙ มาตรา ๔๖ และ มาตรา ๕๙ ๖๐ วัน นับแตวันที่ไดรับรายงานฉบับนี้
ลงวันที่ ๒) การประกาศเขตรักษาพันธุสัตวปาภูผาแดง ๒. เรงใหความชวยเหลือเรื่องที่ทำกินและจายคาทดแทนชาวบานหวยหวายที่ถูกอพยพโยกยาย
๒๘ ก.ย. ๒๕๔๙ เปนการดำเนินการที่มีการละเมิดสิทธิชุมชน สิทธิในที่ ใหเสร็จสิ้นภายใน ๖๐ วัน นับแตวันที่ไดรับรายงานฉบับนี้
ทำกิน และสิทธิในที่อยูอาศัย ตามรัฐธรรมนูญแหงราช ๓. กรมอุทยานแหงชาติ สัตวปา และพันธุพืช ควรยุติการจับกุมชาวบานที่ทำกินอยูเดิมในเขต
อาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๔๐ มาตรา ๔๖, ๕๖ , ๕๙ พื้นที่พิพาทที่กำลังดำเนินการพิสูจนสิทธิและรังวัดพื้นที่ และเขตรักษาพันธุสัตวปาภูผาแดง ควรยุติการ
๓) การที่เจาหนาที่เขตรักษาพันธุสัตวปาภูผา ดำเนินคดีกับชาวบานที่ถูกจับกุมในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๔๘ และวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๔๘
แดงจับกุมดำเนินคดีตอชาวบานในลักษณะคุกคามเกิน ๔. แมกรมอุทยานแหงชาติ สัตวปา และพันธุพืช ไดโยกยายนายมนตรี เชียงอารีย หัวหนาเขต
กวาเหตุ ทั้งที่คณะทำงานที่จังหวัดแตงตั้งมีมติวาจะ รักษาพันธุสัตวปาภูผาแดง ออกจากพื้นที่ แตควรมีการตั้งคณะกรรมการสอบขอเท็จจริงถึงพฤติการณ
เขามาสำรวจ พื้นที่พรอมกันทุกฝายและการประชุมทุก ของเจาหนาที่ในการจับกุมและขมขูคุกคามเกินกวาเหตุ ภายใน ๓๐ วัน นับแตวันที่ไดรับรายงานฉบับนี้
ฝายรวมกับคณะอนุกรรมการสิทธิในการจัดการที่ดิน
และปา ชุดที่ ๒ มีมติใหยุติการจับกุม ขอเสนอแนะ
การจับกุมดำเนินคดีตอชาวบานทั้งสองกรณีดัง ๑. การประกาศเขตปาสงวนแหงชาติ เขตอุทยานแหงชาติ และเขตรักษาพันธุสัตวปาที่ผานมาไมมี
กลาวจึงเปนการกระทำที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน การเดินสำรวจและประสานกับชาวบานที่อยูมากอนเพื่อใหมีสวนรวมในการดำเนินการ ทำใหเกิดความ
ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๔๐ ขัดแยงและความเดือดรอนในพื้นที่ทั่วประเทศ ดังนั้น รัฐบาลควรเรงรัดกระบวนการการพิสูจนสิทธิโดยตั้ง
เสียงจากประชาชน
“ที่ดินในเขตปาและสิทธิชุมชนในการจัดการที่ดินและปา” 115