Page 106 - รายงานการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง ปัญหาและมาตรการทางกฎหมายในการรับรองและคุ้มครองสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัว
P. 106
๙๑
(๑) การใช้ชื่อหรือรูปถ่ายของบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ทางการค้าของตน
(Appropriation) ได้แก่
- การแต่งตัวหรือท่าบุคลิกให้เหมือนบุคคลนั้น (Look-alikes)
- การเลียนแบบเสียงให้เหมือนบุคคลนั้น (Sound-alikes) ยกเว้นเป็น
กรณีที่เพื่อให้ข้อมูลและเสนอข่าว
(๒) การรุกล้่าทางร่างกายของบุคคลอื่นในการที่ผู้นั้นประสงค์จะอยู่
ตามล่าพัง (Intrusion) เช่น การดักฟังพูดโทรศัพท์ การใช้กล้องเลนส์ซูมระยะไกลเพื่อถ่ายภาพ
การแอบซ่อน ไมโครโฟนเพื่ออัดเทปการสนทนา ฯลฯ
ข้อสังเกต ในที่สาธารณะไม่ถือว่ามีสิทธิความเป็นอยู่ส่วนตัว (No Privacy in
Public) ดังนั้น การถูกถ่ายภาพในงานคอนเสิร์ตจึงไม่ใช่การรุกล้่าความเป็นอยู่ส่วนตัวเพราะเป็นสถานที่
ที่คนทั่วไปสามารถพบเห็นได้อย่างเสรี
(๓) การตีพิมพ์เรื่องราวส่วนตัวของบุคคลอื่นในลักษณะเกินเลยความพอดี
หรือเป็นการล่วงละเมิดต่อการด่าเนินชีวิตปกติของบุคคลนั้น (Publication of Private Information) หมายถึง
- เป็นการตีพิมพ์ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
- การเปิดเผยดังกล่าวมีลักษณะล่วงละเมิดในมุมมองของบุคคลทั่วไป
- ข้อมูลดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องหรือเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนตาม
กฎหมาย
(๔) การเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลอันเป็นเท็จต่อสาธารณะ (False Light)
หมายถึง การเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณชนโดยท่าให้ผู้อื่นได้รับความเสื่อมเสีย โดยมีองค์ประกอบดังนี้
- เป็นการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคลอันเป็นเท็จ
- ข้อความอันเป็นเท็จนั้นก่อให้เกิดความเสียหายในมุมมอง ของบุคคล
ทั่วไป
- ผู้เผยแพร่มีเจตนาทุจริตในขณะกล่าวหาบุคคลอื่น
(๔) สรุป
การที่สื่อมวลชนถ่ายภาพผู้เสียหายในคดีล่วงละเมิดทางเพศแล้วน่าไป
ตีพิมพ์ในสื่อสิ่งพิมพ์ หรือการที่บุคคลติดตามถ่ายภาพบุคคลอื่นในลักษณะคุกคามโดยบุคคล
ผู้ถูกถ่ายภาพนั้นไม่ได้ให้ความยินยอม เป็นการแทรกแซงสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวของผู้ถูกถ่ายภาพ
นั้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย และเป็นการกระท่าอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนของบุคคลนั้น