Page 86 - รายงานผลการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะ มาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (ฉบับสมบูรณ์)
P. 86
รายงานผลการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะ มาตรการ หรือแนวทางในการส่งเสริมและ
คุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ซึ่งรวมถึงการพิจารณาอนุญาตให้ส ารวจหรือใช้ทรัพยากรธรรมชาติ การให้ใช้ที่ดินเพื่อด าเนิน
กิจการด้านพลังงาน และการด าเนินกิจการอื่นอันเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรและประโยชน์
สาธารณะของประเทศด้วย
กล่าวโดยสรุปคือ เดิมการด าเนินกิจการเกี่ยวกับพลังงานในพื้นที่ ส.ป.ก. ได้รับอนุญาตตาม “ระเบียบ
คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เรื่อง การให้ความยินยอมในการน าทรัพยากรธรรมชาติในเขต
ปฏิรูปที่ดินไปใช้ประโยชน์ตามกฎหมายอื่น พ.ศ. 2541” แต่ภายหลังมีค าสั่งศาลปกครองสั่งเพิกถอนการ
อนุญาตดังกล่าว เนื่องจากวัตถุประสงค์ในการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. นั้น เป็นไปเพื่อจัดสรรให้แก่เกษตรกรที่ไม่มีที่ดิน
เป็นของตนเอง หรือมีที่ดินไม่เพียงพอ หรือเพื่อกิจกรรมที่ส่งเสริมการเกษตร ท าให้การด าเนินกิจการพลังงาน
ในพื้นที่ ส.ป.ก. ต้องหยุดชะงัก คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงได้ออกค าสั่งดังกล่าวจึงออกมาเพื่อปลดล็อก
ให้มีการด าเนินกิจการเกี่ยวกับพลังงานในที่ดิน ส.ป.ก. ต่อไป ทั้งนี้ การที่ คสช. ในฐานะฝ่ายบริหารออกค าสั่ง
ในเรื่องดังกล่าว นอกจากจะเป็นการแก้ไขกฎหมายในล าดับพระราชบัญญัติ ซึ่งเป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ
แล้ว ยังมีผลเปลี่ยนแปลงค าพิพากษาศาลปกครองซึ่งเป็นฝ่ายตุลาการอีกด้วย
มาตรการที่เกี่ยวข้องกับระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
ค าสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 3/2559 เรื่อง การยกเว้นการใช้บังคับกฎหมาย
ว่าด้วยการผังเมืองและกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ
− ให้ยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม กฎกระทรวงหรือข้อบัญญัติ
ท้องถิ่นก าหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคลื่อนย้าย และใช้หรือเปลี่ยนการใช้
อาคาร ซึ่งออกโดยอาศัยอ านาจตามความในมาตรา 8 (10) มาตรา 9 และ มาตรา 10 แห่ง
พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และประกาศกรมโยธาธิการและผังเมืองก าหนด
หลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน ซึ่งออกโดยอาศัยอ านาจตามความในมาตรา 15 (3)
แห่งพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2518 เมื่อได้มีประกาศกระทรวงมหาดไทยก าหนด
บริเวณห้ามการก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคลื่อนย้าย และใช้หรือเปลี่ยนการใช้อาคาร
ซึ่งออกโดยอาศัยอ านาจตามความในมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร
พ.ศ. 2522 และประกาศกรมโยธาธิการและผังเมืองก าหนดหลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์
ในทรัพย์สิน ซึ่งออกโดยอาศัยอ านาจตามความในมาตรา 15 (3) แห่งพระราชบัญญัติการ
ผังเมือง พ.ศ. 2518 ขึ้นใช้บังคับ ในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษซึ่งได้ประกาศไว้
− ให้ประกาศกระทรวงมหาดไทยและประกาศกรมโยธาธิการและผังเมืองดังกล่าวยังคงมีผลใช้
บังคับต่อไปจนกว่าจะมีการออกกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยการ
ผังเมืองและกฎกระทรวงหรือข้อบัญญัติท้องถิ่นก าหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน
เคลื่อนย้ายและใช้หรือเปลี่ยนการใช้อาคารตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารเพื่อใช้
บังคับในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ
2-68 สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย