Page 69 - รายงานผลการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะ มาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (ฉบับสมบูรณ์)
P. 69
บทที่ 2
แนวคิดในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2504
− ให้สภาพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงเกษตร จัดท า
โครงการส ารวจจ าแนกประเภทที่ดินตามหลักการ ดังนี้
ให้มีการประกาศก าหนดเขตต่างๆ ดังนี้ ป่าสงวนคุ้มครองจ านวน 1,300 แปลง เนื้อที่
ประมาณ 174,806,100 ไร่ ป่าจัดสรรเพื่อการเกษตรกรรมและการใช้ประโยชน์อย่าง
อื่น เนื้อที่ประมาณ 31,997,700 ไร่
ป่าที่จะก าหนดเป็นป่าสงวนคุ้มครองนั้นต้องเป็นป่าที่เป็นสมบัติของชาติ หากทบวง
การเมืองใดประสงค์จะใช้ประโยชน์จะต้องท าความตกลงกับกระทรวงเกษตร และ
ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเป็นรายๆ ไป
ป่าที่จะเปิดจัดสรรเพื่อการเกษตรกรรมและเพื่อการใช้ประโยชน์อย่างอื่นนั้น
ให้นายอ าเภอท้องที่ด าเนินการจัดสรรให้ประชาชนตามโครงการและระเบียบว่าด้วย
การจัดที่ดินเพื่อประชาชนของคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ โดยไม่ต้องขอรับความ
เห็นชอบจากกระทรวงเกษตร
ให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติจัดล าดับความส าคัญของโครงการส ารวจจ าแนก
ประเภทที่ดินทั่วประเทศโดยละเอียด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการจัดท า Survey for
Land Use Classification ให้เป็นไปตามหลักวิชาการ เพราะโครงการดังกล่าวจะเป็น
ประโยชน์แก่การวางโครงการพัฒนาการเศรษฐกิจของชาติให้เป็นผลดียิ่งๆ ขึ้นไปใน
ภายหน้า
มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2525
− พื้นที่ป่าไม้ถาวรที่ยังไม่ได้ประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ร่วมกับกรมที่ดิน กรมแผนที่ทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ท าการส ารวจและจ าแนก
ประเภทที่ดินอย่างละเอียด ให้เสร็จภายใน พ.ศ. 2530
− พื้นที่ที่เหมาะสมกับการท าการเกษตร แต่ยังมีสภาพเป็นป่าไม้อยู่ ให้รักษาไว้เป็นป่าต่อไป
ไม่ควรจ าแนกออกเป็นพื้นที่ท ากิน
− พื้นที่ที่จ าแนกเป็นป่า ให้กรมป่าไม้ด าเนินการประกาศเป็นป่าสงวนแห่งชาติตาม
หลักเกณฑ์ของกรมป่าไม้
− พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งมีราษฎรบุกรุกประมาณ 30 ล้านไร่ ให้จัดท าโครงการจ าแนก
ประเภทที่ดิน (Land Reclassification) ให้เสร็จสิ้นภายในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 6 (พ.ศ.
2534) โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกรมที่ดิน กรมแผนที่ทหาร และ
หน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย 2-51