Page 68 - รายงานผลการศึกษาวิจัยเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะ มาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน (ฉบับสมบูรณ์)
P. 68
รายงานผลการศึกษาวิจัยเพื่อจัดท าข้อเสนอแนะ มาตรการ หรือแนวทางในการส่งเสริมและ
คุ้มครองสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
− จัดตั้งคณะกรรมการที่ราชพัสดุ มีอ านาจในการก าหนดหลักเกณฑ์และวิธีการปฏิบัติใน
การปกครองดูแลบ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ
− การโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุ หากเป็นที่ดินที่เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ใช้เพื่อ
ประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะสามารถกระท าได้โดยตราเป็นพระราชบัญญัติ แต่หาก
เป็นการโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุอื่น ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก าหนดใน
กฎกระทรวง และให้มีแผนที่แสดงเขตที่ราชพัสดุแนบท้ายด้วย
พระราชบัญญัติการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2524
− เพื่อควบคุมการเช่าที่ดินเพื่อประกอบเกษตรกรรม
− จัดตั้งคณะกรรมการการเช่าที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในกรุงเทพมหานครและในจังหวัด
ต่างๆ มีอ านาจหน้าที่ในการก าหนดอัตราค่าเช่าขั้นสูง ก าหนดผลผลิตหรือรายได้ขั้นสูง
ของผลิตผลเกษตรกรรม ส าหรับค านวณอัตราค่าเช่าขั้นสูง
− จัดตั้งคณะกรรมการการเช่าที่ดินต าบล เป็นผู้ก าหนดอัตราค่าเช่าขั้นสูงของแต่ละท้องที่
ในเขตต าบลทุก 3 ปี และวินิจฉัยข้อพิพาทเกี่ยวกับค่าเช่า รวมถึงข้อพิพาทอื่นหรือ
ค่าเสียหายอันเกิดจากการเช่า
− การเช่านาเพื่อเพาะปลูกข้าวหรือพืชไร่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ ไม่ว่าจะมีหลักฐาน
เป็นหนังสือหรือไม่
− ระยะเวลาการเช่านาให้มีก าหนดคราวละไม่น้อยกว่า 6 ปี หากไม่มีก าหนดเวลา หรือ
ก าหนดเวลาต่ ากว่า 6 ปี ให้ถือว่ามีก าหนดเวลา 6 ปี
− ผู้ให้เช่านาจะขายนาได้ต่อเมื่อได้แจ้งให้ผู้เช่านาทราบ โดยท าเป็นหนังสือพร้อมระบุราคา
ที่จะขายและวิธีการช าระเงิน และยื่นต่อประธานคณะกรรมการการเช่าที่ดินต าบล
(4) นโยบายของรัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับป่าไม้และที่ดิน
มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2503
− ให้ด าเนินการจ าแนกที่ดินทั่วประเทศเพื่อให้มีเขตป่าสงวนในขั้นต้น และจัดสรรให้
เกษตรกรได้ที่ดินเพิ่มขึ้นประมาณ 30 ล้านไร่
− พ.ศ. 2503 – 2509 ควรจะด าเนินการจ าแนกประเภทที่ดินให้เสร็จ
− เนื้อที่ป่าไม้ 156 ล้านไร่ ในอนาคตหากมีพลเมืองเพิ่มขึ้นอาจลดลงเหลือ 125 ล้านไร่
− ควรมีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินและป่าไม้ให้เหมาะสม เช่น แก้ไขพระราชบัญญัติ
ป่าสงวนเพื่อห้ามบุกรุกที่ดินของรัฐ มีกฎหมายว่าด้วยธรรมชาติอุทยานและสงวนพันธุ์
สัตว์ป่า และมีวิธีการจ าแนกและจัดสรรที่ดินตามทางหลวง ก่อนประชาชนจะบุกรุก
เป็นต้น
2-50 สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย