Page 78 - กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
P. 78

กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ





                                                               หน้า   ๖๙
                     เล่ม   ๑๓๔   ตอนที่   ๔๐   ก           ราชกิจจานุเบกษา                    ๖   เมษายน   ๒๕๖๐


                     ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเป็นผู้ดําเนินการสอบสวนหรือไต่สวนเบื้องต้น
                     ตามหลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไขที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน

                     และปราบปรามการทุจริตก็ได้
                              มาตรา  ๒๓๕  ภายใต้บังคับมาตรา  ๒๓๖  ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยหรือมีการกล่าวหาว่า

                     ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองเฉพาะที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน
                     และปราบปรามการทุจริต  ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ  ผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ  หรือผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน

                     ผู้ใดมีพฤติการณ์ตามมาตรา  ๒๓๔  (๑)  ให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติไต่สวน

                     ข้อเท็จจริง  และหากมีมติด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมดเท่าที่มีอยู่เห็นว่าผู้นั้น
                      มีพฤติการณ์หรือกระทําความผิดตามที่ไต่สวนให้ดําเนินการดังต่อไปนี้

                              (๑)  ถ้าเป็นกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง  ให้เสนอเรื่อง
                      ต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย  ทั้งนี้  ให้นําความในมาตรา  ๒๒๖  วรรคเจ็ด  มาใช้บังคับแก่การพิจารณาพิพากษา

                     ของศาลฎีกาโดยอนุโลม
                              (๒)  กรณีอื่นนอกจาก  (๑)  ให้ส่งสํานวนการไต่สวนไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดําเนินการฟ้องคดี

                     ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง  หรือดําเนินการอื่นตามพระราชบัญญัติ

                     ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
                              การไต่สวนข้อเท็จจริงและมีมติตามวรรคหนึ่ง  คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ

                     ต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กําหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
                     การป้องกันและปราบปรามการทุจริต

                              เมื่อศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองประทับรับฟ้อง
                     ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคําพิพากษา  เว้นแต่ศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญา

                     ของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น  ในกรณีที่ศาลฎีกาหรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญา

                     ของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําพิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์หรือกระทําความผิดตามที่
                     ถูกกล่าวหา  แล้วแต่กรณี  ให้ผู้ต้องคําพิพากษานั้นพ้นจากตําแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่  และให้เพิกถอน

                     สิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้นและจะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกําหนดเวลาไม่เกินสิบปีด้วยหรือไม่ก็ได้
                              ผู้ใดถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งไม่ว่าในกรณีใด  ผู้นั้นไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือ

                     สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  สมาชิกวุฒิสภา  สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นตลอดไป
                     และไม่มีสิทธิดํารงตําแหน่งทางการเมืองใด ๆ

                              ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองพิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหามีความผิด

                     ฐานร่ํารวยผิดปกติหรือทุจริตต่อหน้าที่  ให้ริบทรัพย์สินที่ผู้นั้นได้มาจากการกระทําความผิด  รวมทั้ง
                     บรรดาทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดที่ได้มาแทนทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน




                                                                                                             69




                         .indd   69                                                                               27/8/2562   12:27:04
   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82   83