Page 75 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 75

73
                                                   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                   ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                     ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เช่น เหตุเพียงเพราะชุมนุมโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า และอยู่ระหว่างการขอรับ

                     อนุญาตผ่อนผันเท่านั้น ซึ่งจำาเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงไปพร้อมกันด้วย
                                     ๖.๓  ควรเพิ่มอำานาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริม คุ้มครอง และอำานวยความ

                     สะดวกต่อกลุ่มผู้ชุมนุม และบทลงโทษแก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติฝ่าฝืนหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว
                                          บทบาทอำานาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุม

                     สาธารณะ คือการส่งเสริม คุ้มครองและอำานวยความสะดวกแก่ผู้ชุมนุม กรณีที่จะใช้มาตรการบังคับ
                     ทางปกครองต้องเป็นกรณีที่มีความจำาเป็น ต้องกระทำาการอย่างได้สัดส่วน และพอสมควรแก่เหตุ

                     แห่งการนั้น
                                          พนักงานเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการบังคับทางปกครองกับกลุ่มผู้ชุมนุม ต้องเป็น

                     กรณีที่มีอำานาจหน้าที่ตามกฎหมายและมีเหตุที่จะใช้มาตรการบังคับทางปกครอง ภายใต้หลักความ
                     ได้สัดส่วน (Principle of Proportionality) หากกระทำาการโดยไม่มีอำานาจตามกฎหมายหรือขัดต่อ

                     หลักความได้สัดส่วนดังกล่าว ก็อาจต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา และทางวินัย ซึ่งรวมถึง
                     การละเว้นไม่เข้าแทรกแซงห้ามปรามการชุมนุมด้วย

                                          การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ต้องใช้มาตรการบังคับทางปกครองหรือ
                     การออกคำาสั่งทางปกครอง ต้องเป็นไปตามหลักความได้สัดส่วนกับการจำากัดเสรีภาพในการชุมนุม

                     สาธารณะ กล่าวคือ
                                          ๑)  เพื่อให้วัตถุประสงค์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช

                     ๒๕๕๐ และตามกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะบรรลุผล มิใช่เพื่อให้บรรลุเจตนารมณ์ของ
                     กฎหมายฉบับอื่น ตัวอย่างเช่น การออกคำาสั่งห้ามการชุมนุมสาธารณะด้วยเหตุผลเพื่อรักษา

                     ความสะอาดของที่สาธารณะหรือเพื่อไม่ให้จราจรในย่านธุรกิจติดขัด คำาสั่งเช่นนี้เป็นไปเพื่อบรรลุ
                     วัตถุประสงค์ของกฎหมายอื่น

                                          ๒)  เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องใช้มาตรการที่สามารถนำาไปสู่ผลที่ต้องการได้
                                          ๓)  เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องเลือกใช้มาตรการที่จำาเป็นหรือที่มีความรุนแรง

                     น้อยที่สุด ในกรณีที่จำาเป็นมากขึ้นจึงเลือกใช้มาตรการที่รุนแรงมากขึ้นตามลำาดับ
                                          ๔)  เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องเลือกใช้มาตรการที่เหมาะสมตามข้อเท็จจริงขณะนั้น

                                          ศาลสิทธิมนุษยชนแห่งยุโรป (The European Court of Human Rights)

                     ได้กล่าวถึงหลักความได้สัดส่วนไว้ว่า เหตุผลที่เจ้าหน้าที่ของรัฐจะอ้างว่าการกระทำาของตนเป็นไปตาม
                     หลักความได้สัดส่วน คือ “ความเกี่ยวโยงกับความพอเพียงสมเหตุสมผล (Relevant and Sufficient)

                     และการกระทำานั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานของการประเมินข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างมีเหตุผลและ
                     ยอมรับได้”  การจำากัดเสรีภาพในการชุมนุมสาธารณะเพียงเพราะความสงสัยของเจ้าหน้าที่หรือการ

                     สันนิษฐานไว้ก่อนนั้นไม่อาจยอมรับได้  ดังนั้น การจำากัดเสรีภาพในการชุมนุมสาธารณะโดยกำาหนด
                     ครอบคลุมทุกกรณี เช่น ระหว่างเวลาที่พระอาทิตย์ตกถึงพระอาทิตย์ขึ้น โดยไม่พิจารณาสถานการณ์
   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80