Page 74 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 74
72 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
เสถียรภาพของฝ่ายปกครอง กฎหมายลำาดับรองที่จะออกมาใช้บังคับแก่กรณีดังกล่าว จึงควรมี
สถานะสูงกว่าประกาศของรัฐมนตรี
ในส่วนเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการดูแลการชุมนุม รัฐต้องฝึกอบรมเจ้าหน้าที่
ในเรื่องนี้โดยเฉพาะ เพื่อปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุมตามหลักสากล เป็นไปด้วยความสันติ ไม่เกิดความ
รุนแรงจนต้องสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
๖.๒ เมื่อประกาศพื้นที่ควบคุมแล้ว บัญญัติให้อำานาจเจ้าหน้าที่ค้น จับ ยึด หรือ
อายัดทรัพย์สินผู้ชุมนุมสาธารณะได้ โดยถือว่าการกระทำาของผู้ชุมนุมเป็นความผิดซึ่งหน้า
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๒ และ
มาตรา ๔๑ และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ข้อ ๙ ได้บัญญัติ
รับรองสิทธิและเสรีภาพในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของประชาชนไว้ ซึ่งบุคคลใดๆ ไม่อาจล่วง
ละเมิดได้ และได้บัญญัติยกเว้นการกระทำาที่กระทบกระเทือนสิทธิและเสรีภาพดังกล่าวก็แต่โดย
พนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำานาจหน้าที่ในการนั้น โดยได้รับคำาสั่งหรือหมายของศาล กรณีผู้เข้าร่วม
การชุมนุมตามความหมายของกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะนี้ ต้องสันนิษฐานเป็นคุณไว้ก่อน
ว่าเข้าร่วมการชุมนุมโดยประสงค์ที่จะแสดงออกซึ่งการสนับสนุน เรียกร้อง หรือคัดค้านกฎหมาย
นโยบายการกระทำา การดำาเนินการในโครงการหรือกิจกรรม หรือท่าทีอย่างหนึ่งอย่างใด โดยไม่
ต้องการที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวายหรือความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นในบ้านเมือง ผู้เข้าร่วมการชุมนุม
จึงไม่ควรถูกสั่งให้หยุดและถูกตรวจค้น หรือยึด อายัดทรัพย์สิน นอกเสียจากว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ
มีเหตุผลเพียงพอที่จะสงสัยว่าบุคคลผู้นั้นได้กระทำาความผิดมาแล้ว หรือกำาลังกระทำาความผิด หรือ
จะทำาความผิดในระยะเวลาอันใกล้
คว�มเห็นและข้อเสนอ
การให้อำานาจเจ้าหน้าที่กระทำาการต่อเนื้อตัวร่างกายของผู้ชุมนุม โดยการจับกุม
การค้น รวมทั้งกระทำาต่อทรัพย์สินของผู้ชุมนุมโดยการยึดหรืออายัดทรัพย์สิน ซึ่งสิทธิในเรื่อง
ดังกล่าวถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่มีความสำาคัญ โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๒ ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of
Human Rights (UDHR)) ข้อ ๙ และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางการเมืองและสิทธิพลเมือง
(UN International Covenant on Civil and Political Rights (ICCPR)) ข้อ ๙ ได้บัญญัติรับรองไว้
หากจะมีการกระทำาใดๆ ที่กระทบสิทธิขั้นพื้นฐานดังกล่าวต้องเป็นกรณียกเว้น ซึ่งโดยปกติแล้ว
ต้องผ่านการวินิจฉัยขององค์กรตุลาการ กล่าวคือ ศาลต้องสั่งอนุญาตให้ออกหมายจับ หมายค้น ฯลฯ
เสียก่อน ภายใต้ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายที่เชื่อว่าผู้กระทำาผิดจะหลบหนี หรือทรัพย์สินสำาหรับใช้
ในการกระทำาความผิดจะถูกเคลื่อนย้ายหรือถูกทำาลาย ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ที่แตกต่างจากบทบัญญัตินี้
ที่ให้อำานาจดังกล่าวแก่เจ้าหน้าที่เพียงเพราะถือว่าการชุมนุมนั้นเป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ประการสำาคัญ ร่างพระราชบัญญัตินี้ได้กำาหนดเหตุบางประการที่จะถือว่า การชุมนุมนั้นเป็นการชุมนุม