Page 73 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 73

71
                                                   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                   ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                                     นอกจากนี้ ควรบัญญัติเรื่องการขยายระยะเวลาการชุมนุมไว้ในกฎหมายนี้ด้วย

                     ทั้งนี้ เพื่อรับรองการชุมนุมสาธารณะในช่วงขยายระยะเวลาว่าเป็นการชุมนุมโดยชอบด้วยกฎหมาย
                     และเพื่อกำาหนดกรอบการใช้อำานาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการชุมนุม



                                ประเด็นที่ ๖ อำานาจหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ (มาตรา ๒๐ วรรคท้าย มาตรา ๒๗
                     และมาตรา ๒๘)
                                     ๖.๑  กำาหนดให้เจ้าพนักงานอาจใช้เครื่องมือควบคุมฝูงชนได้ตามที่รัฐมนตรี

                     ประกาศกำาหนด และการดำาเนินการเพื่อให้ผู้ชุมนุมยุติหรือเลิกการชุมนุม

                                          บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญได้บัญญัติรับรองสิทธิหรือเสรีภาพของประชาชน
                     ไว้เฉพาะหลักการเท่านั้น โดยจะต้องมีการตรากฎหมายระดับพระราชบัญญัติขยายความรัฐธรรมนูญ
                     และอาจกำาหนดกฎหมายลำาดับรองที่ให้อำานาจฝ่ายบริหารไปออกกฎ เช่น กฎกระทรวง ระเบียบ

                     ข้อบังคับ ดังนั้น พระราชบัญญัติควรมีขอบเขตที่ชัดเจนว่าจะให้ฝ่ายบริหารออกกฎเกณฑ์เรื่องอะไร

                     มีหลักเกณฑ์และวิธีการอย่างไร ทั้งนี้ เพื่อจำากัดอำานาจดุลพินิจของฝ่ายบริหารไม่ให้กว้างจนเกินไป
                                          การใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ควรเขียนให้ชัดเจนว่า
                     ทำาได้ในกรณีใดบ้าง เช่น เพื่อป้องกันตนเอง เป็นภัยที่เกิดขึ้นใกล้ตัว และไม่สามารถหลีกเลี่ยงโดยวิธี

                     อื่นใดที่โดยปราศจากการใช้เครื่องมืออุปกรณ์เช่นนั้นได้  ในกรณีเช่นนี้พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องได้รับการ

                     ฝึกอบรมอย่างเพียงพอ เนื้อหาการฝึกอบรมประกอบด้วย ๒ ส่วน คือ ๑) การเรียนรู้ให้เข้าใจสภาพ
                     ธรรมชาติของการชุมนุมสาธารณะ และฝึกปฏิบัติการหลีกเลี่ยงความรุนแรง และไม่ขยายความขัดแย้ง
                     ให้สูงขึ้น ๒) การฝึกฝนให้มีทักษะที่นุ่มนวลในการเจรจาต่อรองและการเป็นคนกลางในการไกล่เกลี่ย

                     ข้อพิพาท การเรียนรู้เรื่องสิทธิมนุษยชน และควรนำา “แนวปฏิบัติสำาหรับเจ้าหน้าที่ตำารวจ” (The UN

                     Code of Conduct of Law Enforcement Officials) ซึ่งองค์การสหประชาชาติได้จัดทำาไว้ประกอบ
                     การฝึกอบรมด้วย


                                     คว�มเห็นและข้อเสนอ
                                     ควรกำาหนดกรอบและขั้นตอนการควบคุมฝูงชน ซึ่งรวมถึงการใช้กำาลังเพื่อให้
                     ผู้ชุมนุมยุติหรือเลิกการชุมนุมไว้ในพระราชบัญญัติฉบับนี้  โดยคำานึงถึงหลักความได้สัดส่วนและ

                     พอสมควรแก่เหตุ เพื่อเป็นแนวทางในการกำาหนดรายละเอียดในกฎหมายลำาดับรองต่อไป เช่น

                     เจ้าหน้าที่ต้องเลือกใช้มาตรการที่รุนแรงน้อยที่สุดและเท่าที่จำาเป็น โดยห้ามมิให้มีการใช้อาวุธปืน
                     ในการยุติหรือเลิกการชุมนุมโดยเด็ดขาด
                                     นอกจากนี้ การกำาหนดให้ใช้เครื่องมือควบคุมฝูงชนและดำาเนินการเพื่อให้ผู้ชุมนุม

                     ยุติหรือเลิกการชุมนุมให้เป็นไปตามกฎหมายลำาดับรอง ได้แก่ ประกาศที่ออกโดยรัฐมนตรีนั้น

                     เห็นว่า การดำาเนินการดังกล่าวเป็นเรื่องที่กระทบสิทธิและเสรีภาพของประชาชนโดยตรง และสุ่มเสี่ยง
                     ที่จะเกิดความรุนแรงได้โดยง่าย และอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การลุงทุน ความเชื่อมั่น ตลอดจน
   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78