Page 17 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 17
15
ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้พิจารณาและมีความเห็นว่า หน่วยงาน
ของรัฐต่างๆ ที่มีอำานาจหน้าที่ควรร่วมกันศึกษา วิเคราะห์ วางหลักเกณฑ์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
ในการช่วยเหลือเยียวยาทางการเงินและอื่นใดแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำาของรัฐ
เจ้าหน้าที่ของรัฐเนื่องจากข้อบกพร่องของกระบวนการยุติธรรม จากการใช้นโยบาย/การบริหาร
ของรัฐ หรือการกระทำาใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชน รวมถึงการควบคุมเหตุการณ์
เนื่องจากการแสดงออกทางการเมืองของประชาชนและกลุ่มชนแล้วทำาให้มีผู้ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้
เพื่อลดการใช้ดุลพินิจและการเลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พัฒนาและจัดสรร
ทรัพยากรอย่างเพียงพอในการบริหารงานกระบวนการยุติธรรมเพื่อประกันว่า ผู้ถูกลงโทษเป็น
ผู้กระทำาผิดกฎหมายอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ มีความเห็นว่า ควรแก้ไขพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และ
ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญาฯ โดยขยายอายุความการใช้สิทธิยื่นคำาขอเป็น ๑๐ ปี
มีขั้นตอนการแจ้งสิทธิเรื่องนี้แก่ผู้เสียหายและจำาเลยในคดีอาญาที่ได้รับความเสียหายจากข้อบกพร่อง
ในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา (มาตรา ๒๒) เพิ่มฐานความผิดท้ายพระราชบัญญัติฯ ให้ครอบคลุม
ความผิดฐานชิงทรัพย์ หรือปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บหรือถึงแก่ความตาย ความผิดเกี่ยวกับ
การค้ามนุษย์์ เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการจ่ายค่าทดแทนและค่าใช้จ่าย โดยใช้เงื่อนไขเพียง “เมื่อศาล
พิพากษายกฟ้อง” (มาตรา ๒๐ (๓)) ให้เจ้าหน้าที่ของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพทำาหน้าที่พิจารณา
สั่งจ่ายค่าตอบแทนและค่าทดแทน และให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีอำานาจพิจารณาคำาร้องขอ
อุทธรณ์คำาสั่งเจ้าหน้าที่ โดยถือว่าคำาสั่งของคณะกรรมการฯ เป็นที่สุด (มาตรา ๘ และ ๒๕)
สำาหรับความเห็นของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐที่มีอำานาจหน้าที่ในเรื่องนี้ สำานัก
เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ แจ้งว่า รองนายกรัฐมนตรี
(นายวิษณุ เครืองาม) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม
(กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) พิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงการพัฒนาสังคมและ
ความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำานักงาน
ตำารวจแห่งชาติ สำานักงานอัยการสูงสุด และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดทำารายงานผลการพิจารณา
หรือผลการดำาเนินงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วแจ้งผลการพิจารณาหรือผลการ
ดำาเนินการเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง เมื่อ
คณะรัฐมนตรีพิจารณาและมีมติแล้วสำานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งผลการพิจารณาของ
คณะรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบ รายละเอียดปรากฏในผลงานลำาดับที่ ๕
ผลงานลำาดับที่ ๖
เรื่อง ก�รส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวรวมถึงสิทธิที่เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสิทธิมนุษยชน