Page 16 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 16

14   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                  หน่วยงานที่เห็นด้วยกับข้อเสนอแนะฯ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เช่น สำานักข่าวกรอง

                  แห่งชาติ เห็นว่า การบังคับใช้กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคงต้องมีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน โปร่งใส
                  สำานักข่าวกรองแห่งชาติและสำานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเห็นพ้องกันว่า การบังคับใช้กฎหมาย

                  ดังกล่าวควรมีความสมดุลระหว่างการรักษาความมั่นคงของรัฐและการเคารพสิทธิและเสรีภาพ
                  ของประชาชน กองอำานวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) รับว่า จะจัดทำาหลักเกณฑ์

                  การเยียวยาความเสียหายแห่งผู้ได้รับผลกระทบจากการใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคง
                  ภายในราชอาณาจักร ฯ สำานักงานอัยการสูงสุดเห็นว่า ควรแก้ไขพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคง

                  ภายในราชอาณาจักร ฯ โดยให้พนักงานอัยการสามารถนำาผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำาผิดตามกฎหมายนี้
                  เข้าสู่กระบวนการอบรมได้

                             อย่างไรก็ตาม หลายหน่วยงานได้ให้ข้อสังเกตต่อข้อเสนอแนะฯ ดังกล่าว เช่น กระทรวง

                  กลาโหมเห็นว่า ไม่สมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ ในขณะนี้  สำานักข่าวกรอง
                  แห่งชาติมีข้อสังเกตว่า ควรคงอำานาจประกาศใช้กฎอัยการศึกของผู้บังคับบัญชาการทหารที่มีกำาลัง
                  ในใต้บังคับไม่น้อยกว่าหนึ่งกองพัน  และอำานาจของนายกรัฐมนตรีในการขยายเวลาประกาศใช้

                  พระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ  กอ.รมน. เห็นว่า ศาลที่มีอำานาจพิจารณา

                  ข้อพิพาทเนื่องจากการใช้กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคง ซึ่งปัจจุบันให้เป็นอำานาจของศาลยุติธรรม
                  นั้นดีอยู่แล้ว  และสำานักงานศาลยุติธรรมแจ้งว่ากระบวนการเข้ารับการอบรมตามพระราชบัญญัติ
                  การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ มาตรา ๒๑  ในขั้นตอนที่เกี่ยวกับศาลยุติธรรมมีความ

                  โปร่งใส ชัดเจน คำานึงถึงความสมัครใจของผู้ต้องหา โดยศาลรับฟังความจากผู้ต้องหาก่อนออกคำาสั่ง

                  เสมอ จึงไม่ต้องมีคณะบุคคลตามข้อเสนอของ กสม. รายละเอียดอยู่ในผลงานลำาดับที่ ๔



                        ผลงานลำาดับที่ ๕
                        เรื่อง  สิทธิในกระบวนก�รยุติธรรม กรณีเยียวย�คว�มเสียห�ยแก่ผู้เสียห�ยและจำ�เลยในคดีอ�ญ�

                             โดยหลักเมื่อบุคคลได้รับความเสียหายจากการกระทำาของรัฐ หน่วยงานของรัฐ และ

                  เจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่น ความเสียหายเนื่องจากข้อบกพร่องในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา  การใช้
                  นโยบาย การบริหาร หรือการกระทำาอื่นใด ผู้ได้รับความเสียหายควรได้รับการเยียวยาโดยกำาหนดเป็น

                  กฎหมายและใช้กระบวนการทางยุติธรรม  ในเรื่องนี้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้รับ
                  เรื่องร้องเรียนว่า บุตรชายของผู้ร้องถูกทำาร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัสและทุพพลภาพ  ต่อมา ศาลอาญา

                  พิพากษาลงโทษจำาคุกผู้ทำาร้ายเป็นเวลา ๕ ปี ปรับ ๕๐ บาท  ศาลแพ่งพิพากษายกฟ้องเนื่องจากคดี
                  ขาดอายุความ  อีกทั้ง สำานักงานยุติธรรมจังหวัดก็ยกคำาขอรับค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญาตาม

                  พระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔
                  เนื่องจากผู้เสียหายยื่นคำาขอเกิน ๑ ปี
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21