Page 13 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 13
11
ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
อนุสัญญาทั้งสองฉบับเกี่ยวข้องกัน จึงได้ศึกษาแนวทางการอนุวัติกฎหมายภายในเพื่อรองรับการ
ดำาเนินการตามอนุสัญญาดังกล่าว และกลไกการดำาเนินงานที่สอดคล้องกับการปฏิบัติตามพันธกรณี
ข้างต้น
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้พิจารณาและมีความเห็นในเรื่องนี้ว่า ควร
กำาหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในการเสนอร่างกฎหมายภายในให้สอดคล้องตามอนุสัญญาต่อต้าน
การทรมานฯ มีแผนงานที่ชัดเจนในการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาฉบับนี้ ทบทวน
กฎหมายพิเศษด้านความมั่นคงและการบังคับใช้เนื่องจากเป็นกฎหมายที่เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้
อำานาจเกินกว่าเหตุ โดยเฉพาะไม่ใช้กฎหมายเหล่านี้ในการสอบสวน คุมขังที่อาจกระทบต่อสิทธิของ
พยาน ผู้ต้องสงสัย ผู้ต้องหา สอดแทรกเรื่องสิทธิมนุษยชน และการป้องกันและคุ้มครองบุคคลจาก
การถูกกระทำาทรมานในหลักสูตรวิชานิติศาสตร์และหลักสูตรฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของรัฐที่บังคับใช้
กฎหมายด้านกระบวนการยุติธรรม รวมถึงแพทย์และทหาร สร้างความเข้าใจแก่หน่วยงานและ
เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมและที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมรองรับการตรวจเยี่ยมของกลไกการ
ป้องกันระดับชาติและคณะอนุกรรมการว่าด้วยการป้องกันการทรมานของสหประชาชาติ ตามพิธีสาร
เลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ พิจารณาหน่วยงานที่จะทำาหน้าที่เป็นกลไกการป้องกัน
ระดับชาติ ปรับปรุงกฎหมายภายในเพื่อให้ประเทศไทยสามารถให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาระหว่าง
ประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหายได้โดยเร็ว จัดเตรียมบุคลากรและ
งบประมาณสำาหรับสำานักงานอัยการสูงสุดในการทำาหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลอำานาจสืบสวนสอบสวน
ของพนักงานสอบสวน เพื่อคุ้มครองบุคคลที่ถูกกระทำาทรมานหรือที่ถูกบังคับให้สูญหาย
ในเชิงกฎหมาย คณะกรรมการฯ เห็นควรเสนอกฎหมายเฉพาะหรือแก้ไขกฎหมาย
ที่มีอยู่ให้สอดคล้องตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ เสนอกฎหมายเฉพาะที่สอดคล้องตามพิธีสาร
เลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ และกฎหมายเฉพาะว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลจากการ
สูญหายโดยถูกบังคับ แก้ไขพระราชบัญญัติคุ้มครองพยาน พ.ศ. ๒๕๔๖ มาตรา ๓ และ ๘ โดยให้
ครอบคลุมผู้ฟ้องร้อง พยาน ญาติของผู้ถูกบังคับให้สูญหาย ทนายความของบุคคลดังกล่าว ผู้มี
ส่วนร่วมในการสอบสวน แก้ไขพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่
จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๓ และรายการท้ายพระราชบัญญัติฯ เพื่อประกันว่าผู้เสียหาย
เนื่องจากถูกบังคับให้สูญหายจะได้รับค่าตอบแทน ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมและเพียงพอ
เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ สำานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือแจ้งว่าได้
มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาร่วมกับหน่วยงานอื่น แล้วทำาเป็นรายงานภาพรวมประกอบ
การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป รวมทั้งได้แนบความเห็นของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งพบว่าหลาย
หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรม สำานักงานอัยการสูงสุด สำานักงาน
ศาลยุติธรรม ฯลฯ เห็นด้วยในหลักการของรายงานฉบับนี้ นอกจากนี้ กระทรวงยุติธรรมแจ้งด้วยว่า
มีการดำาเนินการบางประการที่สอดคล้องกับข้อเสนอของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เช่น