Page 48 - รายงานโครงการศึกษาวิจัย การต่อสู้ภาคประชาสังคมเพื่อยุติการคุกคามทางเพศในที่ทำงาน : กรณีศึกษาสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)
P. 48
๔๗
ให้คิดให้เชื่อในเรื่องหนึ่งเรื่องใดอยู่แน่นอน ในท่ามกลางผู้คนหลากหลายที่มีความคิดความเชื่อต่อเรื่อง
หนึ่งเรื่องใดหลากหลายนั้น จะมีความคิดหนึ่งที่เป็นความคิดนํา เป็นความคิดหลักที่คนส่วนใหญ่
คิดเห็นไปในทิศทางนั้นเพราะถูกขัดเกลาเลี้ยงดูให้คิดให้เชื่อแบบนั้น ตัวอย่างเช่น ในยุคสมัยหนึ่งการ
สูบบุหรี่ในที่สาธารณะเป็นเรื่องที่สังคมยอมรับได้ เป็นความทันสมัย หญิงชายสามารถสูบบุหรี่ตาม
ตลาดและร้านค้าได้โดยไม่มีใครเขม่นมองอย่างไม่ชอบใจ ในยุคสมัยนั้นคนไม่ชอบกลิ่นควันบุหรี่ก็คงมี
อยู่บ้างพอสมควร แต่เขาคงทําอะไรมากไม่ได้ ต้องนั่งโดยสารรถประจําทางแล้วมีคนสูบบุหรี่พ่นควันอยู่
ในบริเวณเดียวกันก็คงต้องนั่งต่อไปเพราะคนส่วนใหญ่ยอมรับการสูบบุหรี่
การยอมรับการสูบบุหรี่เป็นความคิดนํา การไม่ยอมรับการสูบบุหรี่เป็นความคิดรอง
แต่สมัยนี้ทุกอย่างเกี่ยวกับการสูบบุหรี่เปลี่ยนไป ความคิดที่เคยนํากลายเป็นความคิดรอง
ความคิดที่เคยรองขึ้นมาเป็นความคิดนํา กลุ่มที่เป็นรองสามารถ “ช่วงชิงพื้นที่” ให้เป็นของตนเองได้
สามารถทําให้คนหมู่มาก (มวลชน) เห็นด้วยกับตนเองมากกว่าเห็นด้วยกับอีกฝ่ายหนึ่ง
เช่นเดียวกันกับสังคมไทยตั้งแต่สมัย ๑๐๐ ปีที่ผ่านมาที่ความคิดชายเป็นใหญ่เป็นความคิดนํา
ความคิดเรื่องสิทธิสตรีเป็นความคิดรอง
แต่สมัยนี้หญิงชายที่นิยมความคิดชายเป็นใหญ่มีน้อยลง หญิงชายที่เชื่อว่าผู้หญิงกับผู้ชาย
ต้องมีความเสมอภาคกันเริ่มมีมากขึ้น การ “ช่วงชิงพื้นที่” ในสังคมไทย หรือเรียกว่า “ช่วงชิงมวลชน” ให้
คนในสังคมเห็นด้วยกับฝ่ายของตนให้มากที่สุดกําลังดําเนินอยู่
เช่นเดียวกันกับการที่ “สหภาพ” สามารถ “ช่วงชิงพื้นที่” ในเรื่องความเสมอภาคทางเพศมา
จากสังคมการบินไทยและสังคมไทยโดยทั่วไปมาได้ จากเดิมที่คุกคามทางเพศแล้วไม่ผิดเป็นความคิด
นํา การต่อสู้ร้องขอความเป็นธรรมจากการถูกคุกคามทางเพศเป็นความคิดรอง (ถูกข่มขืนไปแล้วจะ
ออกมาพูดอีกทําไม ไม่อายชาวบ้านเขาหรือ)
แต่ ณ ปัจจุบัน การยอมรับว่าคุกคามทางเพศเป็นพฤติกรรมน่ารังเกียจเป็นความคิดนํา
ความคิดว่าการคุกคามทางเพศเป็นธรรมชาติของผู้ชายเป็นความคิดรอง ความคิดที่เคยนํากลายเป็น
ความคิดรอง ความคิดที่เคยรองขึ้นมาเป็นความคิดนํา “สหภาพ” ซึ่งเคยเป็นรองสามารถ “ช่วงชิงพื้นที่”
ให้เป็นของตนเองได้ สามารถทําให้คนหมู่มากในบริษัทการบินไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้บริหาร
ระดับสูง หันมายอมรับและเห็นด้วยกับความคิดของ “สหภาพ” ว่าต้องมีความเสมอภาคทางเพศในที่
ทํางาน และผลการสั่นสะเทือนภายในบริษัทการบินไทยในส่วนนี้มีคุณูปการต่อสังคมไทยในวงกว้างใน
เรื่องความเสมอภาคทางเพศและการยุติการคุกคามทางเพศในที่ทํางานด้วย